พี่เค้าบอกว่ากองทุนนี้ดี
- April 19, 2020
- Posted by: Pacharaporn
- Category: Financial
เมื่อหลายปีก่อน การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทาง Internet ยังไม่ได้ง่ายดายเหมือนในปัจจุบัน ดังนั้นการจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนการเงิน และการลงทุน ก็ต้องซื้อหนังสือมาอ่าน ซึ่งถามว่าเข้าใจมั้ย ตอบเลยว่า “ไม่”
ต่างกับในปัจจุบันที่มีคนเก่งๆ มากมาย นำความรู้เรื่องการวางแผนการเงิน และการลงทุน มาเขียนอธิบายให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น นอกจากนั้นก็ยังมีการ Live สด หรือ รายการให้ความรู้ทางการเงิน มากมาย ทำให้เด็กยุคใหม่ เริ่มหันมาสนใจเรื่องนี้กันมากขึ้น
น้องเหมียว เป็นเด็กยุคใหม่อีกคนหนึ่งที่เริ่มสนใจเรื่องการลงทุน โดยน้องให้เหตุผลว่าหลังจากจบมหาลัย เริ่มทำงานมาได้ 2 ปี แต่ไม่มีเงินเก็บเลย เคยแบ่งเงินส่วนนึงไปฝากธนาคาร สุดท้ายก็ถอนออกมาใช้หมด
เมื่อได้อ่านบทความเกี่ยวกับการลงทุนผ่านทาง Internet ก็มีความคิดว่าจะเริ่มแบ่งเงินเอาไปลงทุน เพราะได้ประโยชน์ 2 ทาง คือ เก็บออม และลงทุนให้งอกเงย
ด้วยความที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ว่าจะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร ก็เลยไปปรึกษารุ่นพี่ในที่ทำงาน พี่เค้าก็แนะนำให้ไปลงทุนในกองทุนรวม เพราะน้องยังไม่มีความรู้มากพอ ไปลงทุนในกองทุนรวมน่าจะปลอดภัยกว่า พร้อมทั้งแนะนำกองทุนมาให้ด้วย
หลังจากนั้นน้องเหมียวก็ได้ทำการเปิดบัญชีกองทุนกับธาคาร และได้ซื้อกองทุนตามที่พี่เค้าแนะนำมาเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อน้องเหมียวเล่าเรื่องราวให้ผมฟังมาถึงตรงนี้ ผมก็เลยขอชื่อกองทุนที่น้องซื้อเอาไว้ เพื่อจะดูข้อมูลของกองทุน และผลการดำเนินงานย้อนหลัง ปรากฎว่ากองทุนที่น้องซื้อ เป็นกองทุน SSF ซึ่งสามารถนำยอดเงินที่ซื้อหน่วยลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้
ผมจึงขอข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ของน้องว่าแต่ละเดือนน้องมีรายได้รวมกี่บาท เพื่อจะนำมาคำนวณภาษีให้
แต่!! เมื่อน้องบอกรายได้มา ทำผมอึ้งไปเล็กน้อย เพราะรายได้สุทธิทั้งปีของน้อง ยังไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีครับ
ดังนั้นน้องเหมียวจึงไม่สามารถนำยอดเงินที่ซื้อหน่วยลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ และยังคงต้องถือหน่วยลงทุนจนกว่าจะครบ 10 ปีนับจากวันซื้อ จึงจะสามารถขายหน่วยลงทุนได้
ผมได้อธิบายข้อกำหนดต่างๆ ของกองทุน SSF ให้น้องฟัง ซึ่งน้องเหมียวไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากองทุนที่ซื้อมา เป็นกองทุน SSF และมีเงื่อนไขอย่างไร
ผมไม่ได้บอกว่ากองทุน SSF ไม่ดีนะครับ แต่ในเมื่อน้องเหมียวไม่ได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อกองทุน SSF ซึ่งเพิ่งเริ่มก่อตั้ง ไม่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังให้เปรียบเทียบ และยังบังคับถือไปอีก 10 ปี
สำหรับใครที่กำลังจะลงทุนไม่ว่าจะลงทุนในหุ้น, กองทุน หรือการลงทุนประเภทอื่นๆ ต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนที่จะเริ่มลงทุนนะครับ การที่ฟังคนอื่นแนะนำมา ก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม และพิจารณาด้วยว่าเราสามารถยอมรับความเสี่ยงได้หรือไม่ เพราะแต่ละคนยอมรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน
ดังนั้นหุ้น หรือ กองทุน ที่เพื่อนแนะนำมา อาจจะเหมาะสำหรับเค้า แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับเราก็ได้ครับ