พี่อร กับ พี่เมธี เป็นพนักงานบริษัทเอกชนในกรุงเทพฯ ซึ่งมีสวัสดิการดีมาก หนึ่งในสวัสดิการที่ได้รับคือ “ประกันกลุ่ม” ทำให้พี่เมธีไม่เคยคิดที่จะซื้อประกันสุขภาพของตัวเองเลย ถึงแม้ว่าพี่อรจะพยายามโน้มน้าวแค่ไหนก็ตาม เพราะพี่อรกลัวว่าในอนาคตหากไม่สบายหนักๆ หรือเป็นโรคร้ายแรง จะได้ไม่ลำบากเพราะมีประกันช่วยจ่าย แต่ทุกครั้งพี่เมธีก็จะบอกว่า มีประกันกลุ่มอยู่แล้ว จะซื้อประกันสุขภาพทำไม

เนื่องจากพี่เมธีเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง สมัยเด็กๆ ก็เป็นนักกีฬาโรงเรียน พอเข้ามหาลัยก็เป็นนักกีฬามหาลัยอีก จนเข้าสู่วัยทำงานถึงแม้จะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แต่ก็ไม่เคยเจ็บป่วยถึงขนาดต้องนอนโรงพยาบาลเลย

และในเมื่อบริษัทก็มีสวัสดิการประกันกลุ่มให้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาเจ็บป่วย เล็กๆ น้อยๆ ก็ใช้ประกันกลุ่มมาตลอด บางครั้งต้องจ่ายเพิ่มเองบ้างนิดหน่อย ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ดังนั้นจึงรู้สึกว่าการซื้อประกันสุขภาพเป็นเรื่องสิ้นเปลือง และไม่สำคัญ

ตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา พี่อรพยายามคะยั้นคะยอให้พี่เมธีซื้อประกันสุขภาพ แต่ก็จะมีปัญหาทะเลาะกันทุกครั้ง จนหลังๆ มา พี่อรก็เริ่มเบื่อที่จะพูดเรื่องนี้

ในที่สุดวันที่พี่อรกลัวมาตลอดก็เกิดขึ้น…..
เย็นวันหนึ่ง หลังจากที่พี่อร และพี่เมธีกลับถึงบ้าน พี่เมธีเริ่มบ่นว่าเจ็บหน้าอกข้างซ้าย แต่ก็คิดว่าอาจจะเจ็บกล้ามเนื้อ เนื่องจากหิ้วของหนัก หรือเอื้อมหยิบของ

เวลาผ่านไปจนเกือบ 2 ทุ่ม อาการเจ็บหน้าอกยังไม่ดีขึ้น และดูเหมือนจะเจ็บหนักขึ้นกว่าเดิม พี่อรจึงตัดสินใจพาพี่เมธีไปโรงพยาบาล ผลก็คือ พี่เมธีเส้นเลือดหัวใจตีบเกือบ 100% 1 เส้น และตีบ 70% อีก 1 เส้น ต้องทำบอลลูนขยายหลอดเลือดทันที ซึ่งการรักษาก็ผ่านพ้นไปด้วยดี

แต่สิ่งที่มีผลกระทบต่อครอบครัวทันที คือค่ารักษาเกือบ 2 แสนบาท เพราะพี่เมธีไม่มีประกันสุขภาพเลย ประกันกลุ่มที่มีอยู่ ถึงจะเบิกได้แต่ไม่เพียงพอ ต้องจ่ายเงินส่วนต่างเองอีกเกือบ 1 แสน ดีที่มีบัญชีเงินเก็บของลูกอยู่ ก็ต้องถอนออกมาจ่ายค่ารักษาจนเกือบหมดบัญชี เงินที่ตั้งใจเก็บเอาไว้เป็นทุนการศึกษาของลูก ต้องถูกเอามาใช้รักษาชีวิตพ่อก่อน

ถึงแม้การผ่าตัดจะผ่านไปด้วยดี แต่พี่เมธีก็ต้องกินยาไปตลอดชีวิต และยังต้องเตรียมเงินเพื่อทำบอลลูนสำหรับหลอดเลือดอีก 1 เส้น ซึ่งตีบไปแล้ว 70%

หลังจากพักฟื้นได้ซักระยะ พี่เมธีก็บอกพี่อรให้หาตัวแทนประกันชีวิตมาหน่อย จะทำประกันสุขภาพ ผ่าตัดครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องเสียเงินเอง

พี่อรจึงอธิบายว่าทำประกันสุขภาพไม่ได้แล้ว เพราะมีประวัติการเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ และยังมีแผนที่จะต้องผ่าตัดอีก บริษัทประกันที่ไหนเค้าจะรับ

มาถึงตอนนี้พี่เมธีเพิ่งเริ่มเข้าใจว่าประกันสุขภาพมันสำคัญขนาดไหน ในวันที่เราไม่ได้เจ็บป่วย ประกันสุขภาพเหมือนภาระ แต่ในวันที่จำเป็นต้องใช้ ประกันสุขภาพคือสิ่งที่มีค่าที่สุด

มีประกันกลุ่ม ดีอยู่แล้วครับ แต่ถ้าเป็นอะไรหนักๆ มันไม่พอ
อย่าไปติดกับดักทางความคิดของการมีประกันกลุ่มเลยนะครับ ด้วยความหวังดี