คุณแม่ อุ้มลูกน้อยวัย 9 เดือน เดินมาทักผม ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้วถามผมว่า เป็นมะเร็ง ทำประกันได้มั้ย

ผมค่อนข้างตกใจกับท่าที และคำถามที่เธอถามมา จึงค่อยๆ ชวนเธอคุย เพื่อให้เธอผ่อนคลายจากความกังวล ซึ่งได้แสดงออกมาทางสีหน้า และน้ำเสียง จนผมรับรู้ได้อย่างชัดเจน

คุณแจน เป็นพนักงานบริษัทเอกชน อายุ 32 ปี หลังจากคลอด “น้องเจได” ได้ไม่นาน ก็มีปัญหากับสามี จนต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ตอนนี้เธอคือเสาหลักของครอบครัว ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลลูก และค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ทั้งหมด แต่ยังดีที่คุณแจนยังมีคุณแม่มาช่วยเลี้ยงหลาน ไม่เช่นนั้นค่าใช้จ่ายก็คงสูงขึ้นไปอีก

หลังจากคุยสัพเพเหระกันสักครู่ ผมก็ถามคุณแจน ว่าทำไมจึงตั้งคำถามผมแบบนั้น

คุณแจนจึงเล่าให้ฟังว่า อาทิตย์ที่แล้วมาตรวจสุขภาพประจำปี และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คุณหมอแจ้งว่าพบเซลล์ผิดปกติ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ จะต้องไปตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม ตอนนี้ยังไม่ต้องกังวลอะไร

คุณแจนเล่าถึงวินาทีที่คุณหมอแจ้งว่าพบเซลล์ผิดปกติ มันชาไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ต้องคิดอะไรก่อน กลัวว่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน แล้วหน้าลูกชายตัวน้อยก็ลอยขึ้นมา พร้อมกับความวิตกกังวลมากมาย

ลูกจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร…
ลูกจะเอาเงินที่ไหนใช้…
ลูกจะได้เรียนจนจบมั้ย…

แล้วถ้าเป็นมะเร็ง และต้องจากโลกนี้ไปจริงๆ คนที่ต้องมารับภาระแทน ก็คือ คุณแม่ คนแก่อายุ 65 ที่ต้องกลับมาหารายได้เพื่อเลี้ยงตัวเอง และหลานตัวน้อย

ทรัพย์สิน และเงินที่มีในบัญชี ก็ไม่ได้มีมากนัก ประกันชีวิต ก็มีไม่เยอะ เพราะตัวเองสุขภาพ แข็งแรง ไม่เคยป่วยหนัก จึงทำไว้แค่เพื่อลดหย่อนภาษี

เพิ่งเข้าใจคำว่าทุนประกันชีวิต ก็วันนี้เอง ตอนนี้อยากทำประกันที่มีทุนเยอะๆ ลูกจะได้ไม่ลำบาก แต่ก็ไม่รู้ว่ายังจะทำได้มั้ย เพราะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งแล้ว

ผมรับรู้ และเข้าใจความรู้สึกของคุณแจนเป็นอย่างดี เพราะคุณแม่ผมก็เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเช่นกัน แต่ผมก็ทำได้แค่ให้กำลังใจ และแนะนำให้รอผลการวินิจฉัยจากคุณหมอก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วจึงค่อยมาคิดวางแผนกัน

คุณแจน คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่เพิ่งมาเข้าใจความสำคัญของการมีประกันชีวิต ในวันที่ครอบครัวต้องการมันมากที่สุด แต่ก็อาจจะทำเพิ่มไม่ได้อีกแล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงสร้างเพจนี้ขึ้นมาเพื่ออยากแบ่งปันเรื่องราว และตอบข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องประกันชีวิต ด้วยความหวังว่า จะช่วยให้คนไทยเข้าใจความสำคัญของการมีประกันชีวิตมากขึ้น

ป.ล. เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากนี้ ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นกับผมและครอบครัว ผมคิดว่า…คุณเองก็เช่นกัน